กระจกนิรภัย ( Safety Glass )
กระจกนิรภัย คือ
กระจกนิรภัย คือ กระจกที่ได้รับการออกแบบหรือผลิตมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัย มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ โดยกระจกนิรภัยครอบคลุมหลายประเภท เช่น กระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass) กระจกลามิเนต (Laminated Glass) กระจกมีลวด (Wired Glass) และกระจกแข็งพิเศษ (Heat-Strengthened Glass) ฯลฯ
กระจกนิรภัยใช้ในสถานที่หรืออุปกรณ์ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น อาคาร รถยนต์ ตู้โชว์สินค้า และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องการความแข็งแรงและปลอดภัยจากการแตกหัก.
สินค้าทั้งหมดของ : กระจกนิรภัย ( Safety Glass )
คุณสมบัติหลักของ กระจกนิรภัย ( Safety Glass )
ความแข็งแรงสูง
- กระจกนิรภัยมีความแข็งแรงมากกว่ากระจกธรรมดาหลายเท่า สามารถทนต่อแรงกระแทกและแรงดันได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่หรืออุปกรณ์ที่ต้องการความปลอดภัย
ป้องกันการแตกเป็นชิ้นคม
- เมื่อกระจกนิรภัยแตก กระจกจะแตกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีคม (ในกรณีของกระจกเทมเปอร์) หรือจะถูกยึดไว้ด้วยฟิล์มพลาสติก (ในกรณีของกระจกลามิเนต) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ
ทนต่อความร้อนและการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ
- กระจกนิรภัยทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่แตกง่ายเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของความร้อน
ป้องกันเสียงและรังสี UV (ในกรณีของกระจกบางชนิด)
- กระจกลามิเนตมีคุณสมบัติในการลดเสียงรบกวนจากภายนอกและสามารถกรองรังสี UV ได้บางส่วน ซึ่งช่วยป้องกันสิ่งของภายในจากการซีดจางเนื่องจากแสงแดด
ประเภทหลักของ กระจกนิรภัย ( Safety Glass )
ประเภทหลักของกระจกนิรภัย (Safety Glass) มีดังนี้:
1. กระจกนิรภัยแบบเทมเปอร์ (Tempered Glass)
กระจกที่ผ่านการอบร้อนและทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความแข็งแรงมากกว่ากระจกธรรมดา เมื่อแตกจะแตกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีคม ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ
2. กระจกนิรภัยแบบลามิเนต (Laminated Glass)
กระจกที่ประกอบด้วยแผ่นกระจกสองชั้นหรือมากกว่าที่มีฟิล์มพลาสติก (PVB) คั่นกลาง เมื่อกระจกแตก ฟิล์มจะช่วยยึดชิ้นส่วนของกระจกไว้ ทำให้กระจกไม่แตกกระจายและลดโอกาสการบาดเจ็บ
3. กระจกนิรภัยแบบลวด (Wired Glass)
กระจกที่มีลวดฝังอยู่ภายใน โดยลวดนี้จะช่วยยึดชิ้นส่วนกระจกไว้เมื่อแตก และมีคุณสมบัติทนไฟได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากไฟไหม้
4. กระจกนิรภัยแบบแข็งพิเศษ (Heat-Strengthened Glass)
กระจกที่ผ่านกระบวนการทำให้แข็งตัวโดยการอบและทำให้เย็นช้ากว่ากระจกเทมเปอร์ ทำให้มีความแข็งแรงมากกว่ากระจกธรรมดา แต่ไม่ถึงระดับความแข็งแรงของกระจกเทมเปอร์ ใช้ในกรณีที่ต้องการความแข็งแรงสูงแต่ไม่ต้องการกระจกที่แตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ
มาตรฐานและการรับรองกระจกนิรภัย (Safety Glass Standards and Certification)
มาตรฐานและการรับรองสำหรับกระจกนิรภัย (Safety Glass Standards and Certification) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรับประกันว่ากระจกนิรภัยที่ใช้ในอาคาร ยานพาหนะ และอุปกรณ์ต่าง ๆ มีคุณสมบัติและความปลอดภัยตามที่กำหนด มาตรฐานเหล่านี้ถูกกำหนดโดยหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่ากระจกนิรภัยมีคุณภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันอันตรายจากการแตกหัก
มาตรฐานสำคัญของกระจกนิรภัย
1. มาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials)
- ASTM C1048: มาตรฐานสำหรับกระจกนิรภัยแบบเทมเปอร์ (Tempered Glass) ที่กำหนดข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณสมบัติ ความแข็งแรง และการทดสอบ
- ASTM C1172: มาตรฐานสำหรับกระจกนิรภัยแบบลามิเนต (Laminated Glass) ซึ่งครอบคลุมข้อกำหนดสำหรับการผลิตและคุณสมบัติของกระจกชนิดนี้
2. มาตรฐาน EN (European Standards)
- EN 12150: มาตรฐานยุโรปสำหรับกระจกนิรภัยแบบเทมเปอร์ ครอบคลุมข้อกำหนดด้านความปลอดภัย การทดสอบแรงกระแทก และการทดสอบอื่น ๆ
- EN 14449: มาตรฐานยุโรปสำหรับกระจกนิรภัยแบบลามิเนต ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดด้านการยึดติดและการทดสอบการต้านทานแรงกระแทก
3. มาตรฐาน ANSI (American National Standards Institute)
- ANSI Z97.1: มาตรฐานสำหรับกระจกนิรภัยที่ใช้ในอาคารและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งกำหนดข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและวิธีการทดสอบเพื่อตรวจสอบว่ากระจกมีความปลอดภัยต่อการใช้งานหรือไม่
4. มาตรฐาน ISO (International Organization for Standardization)
- ISO 12543: มาตรฐานสำหรับกระจกนิรภัยแบบลามิเนต ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดด้านคุณสมบัติของกระจกและการทดสอบเพื่อประกันความปลอดภัย
- ISO 614: มาตรฐานสำหรับกระจกนิรภัยที่ใช้ในยานพาหนะ ครอบคลุมข้อกำหนดด้านการป้องกันอันตรายจากการแตกหักและการทดสอบแรงกระแทก
การรับรองคุณภาพและมาตรฐานกระจกนิรภัย
การรับรองคุณภาพของกระจกนิรภัยเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยยืนยันว่าผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่กำหนด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายกระจกนิรภัยมักจะต้องผ่านการตรวจสอบและทดสอบจากหน่วยงานที่ได้รับการรับรอง เพื่อให้ได้รับใบรับรองคุณภาพ เช่น:
- ใบรับรอง CE (Conformité Européenne): สำหรับผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในตลาดยุโรป ซึ่งแสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป
- ใบรับรอง UL (Underwriters Laboratories): สำหรับผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในตลาดอเมริกาเหนือ ซึ่งแสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านการทดสอบและเป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่กำหนด
ตัวอย่างการใช้งาน กระจกนิรภัย ( Safety Glass )
กระจกนิรภัย (Safety Glass) ถูกนำไปใช้ในหลากหลายสถานการณ์ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตัวอย่างการใช้งานที่สำคัญ ได้แก่:
กระจกหน้าต่างและประตูในอาคาร
- กระจกนิรภัยใช้ในหน้าต่างและประตูของอาคาร ทั้งในบ้านพักอาศัยและอาคารพาณิชย์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยจากการแตกหักเมื่อเกิดแรงกระแทกหรืออุบัติเหตุ
กระจกรถยนต์
- กระจกรถยนต์ ทั้งกระจกหน้ารถและกระจกข้าง มักใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์และลามิเนต เพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุ
ตู้โชว์สินค้า
- กระจกนิรภัยใช้ในตู้โชว์สินค้าในร้านค้าและพิพิธภัณฑ์ เพื่อป้องกันการแตกหักและปกป้องสินค้าหรือวัตถุจัดแสดงจากการเสียหาย
กระจกในอุตสาหกรรมก่อสร้าง
- ในงานก่อสร้าง กระจกนิรภัยถูกใช้ในการทำหน้าต่างและส่วนต่าง ๆ ของอาคารเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความทนทานต่อสภาพแวดล้อม
สรุป
กระจกนิรภัย (Safety Glass) คือกระจกที่ออกแบบให้มีความปลอดภัยสูงเมื่อแตก โดยมีประเภทหลักเช่น กระจกเทมเปอร์, กระจกลามิเนต, และกระจกทนไฟ ซึ่งผ่านการทดสอบตามมาตรฐานต่าง ๆ เช่น ASTM, EN, และ ISO เพื่อรับประกันคุณภาพและความปลอดภัย.