กระจกกันแสงเชื่อม Welding Filter Glass

กระจกกันแสงเชื่อม คือ

กระจกกันแสงเชื่อม คือกระจกที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันดวงตาจากรังสีอันตรายและแสงจ้าจากการเชื่อมโลหะ มักใช้ในหน้ากากหรือแว่นตานิรภัยของช่างเชื่อม กระจกชนิดนี้มีคุณสมบัติกรองรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และอินฟราเรด (IR) ที่สามารถทำอันตรายต่อดวงตา และมีระดับความเข้มของแสงต่างๆ (Shade Number) เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทของการเชื่อมที่ทำงานอยู่

กระจกกันแสงเชื่อม
example Welding Filter Glass
example Welding Filter Glass (3)
example Welding Filter Glass (2)
Welding Filter Glass
กระจกกันแสงเชื่อม
ขอราคาสินค้า

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา

  • LINE ID: @PST4545
  • Facebook : Zigma Flow
  • Email : zigmaflow.info@gmail.com
  • Tel : 089-128-7330 , 096-020-2922
  • บริษัท ซิกม่าโฟลว์ เซ็นเตอร์ จำกัด
    24 ซอยประชาชื่นนนทบุรี 6 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 11000
หมวดหมู่สินค้าเพิ่มเติม
ZigmaServices

คุณสมบัติหลักของ กระจกกันแสงเชื่อม

คุณสมบัติหลักของ กระจกกันแสงเชื่อม

คุณสมบัติหลักของกระจกกันแสงเชื่อม ได้แก่:

  1. การกรองรังสีอันตราย: กระจกสามารถกรองรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และอินฟราเรด (IR) ที่เกิดจากการเชื่อมโลหะ ซึ่งช่วยป้องกันดวงตาจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
  2. การป้องกันแสงจ้า: กระจกกันแสงเชื่อมถูกออกแบบมาเพื่อกรองแสงจ้าจากการเชื่อม ทำให้ผู้เชื่อมสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยไม่แสบตาหรือเกิดอาการเมื่อยล้าทางสายตา
  3. ระดับความเข้มของแสง (Shade Number): กระจกชนิดนี้มีระดับความเข้มของแสงหลากหลายระดับ (เช่น Shade 5, Shade 10) ซึ่งแต่ละระดับจะเหมาะสมกับการเชื่อมประเภทต่างๆ เพื่อให้ได้ความปลอดภัยและความชัดเจนสูงสุด
  4. ความทนทาน: กระจกกันแสงเชื่อมถูกผลิตให้ทนต่อความร้อนและการกระแทกที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและปลอดภัย
  5. ความคมชัดในการมองเห็น: แม้จะกรองแสงและรังสี แต่กระจกยังคงให้ความคมชัดในการมองเห็นที่ดี เพื่อให้ผู้เชื่อมสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ

เลือกกระจกกันแสงเชื่อมอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

เลือกกระจกกันแสงเชื่อมอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือกกระจกกันแสงเชื่อมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การป้องกันดวงตาจากรังสีอันตรายและแสงจ้าที่เกิดขึ้นระหว่างการเชื่อมมีประสิทธิภาพสูงสุด ต่อไปนี้เป็นปัจจัยที่ควรพิจารณา:

1. ระดับความเข้มของแสง (Shade Number)

  • ระดับความเข้มของแสง หรือ Shade Number เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกกระจกกันแสงเชื่อม ต้องพิจารณาตามประเภทของการเชื่อมที่คุณทำ เช่น งานเชื่อม MIG, TIG, หรือเชื่อมไฟฟ้าแต่ละประเภทมีระดับความเข้มที่เหมาะสมแตกต่างกัน เช่น:
    • Shade 5-9: เหมาะสำหรับงานเชื่อมที่ใช้กระแสต่ำ เช่น การเชื่อมด้วยแก๊ส
    • Shade 10-14: เหมาะสำหรับงานเชื่อมที่ใช้กระแสสูง เช่น การเชื่อมไฟฟ้าหรือเชื่อม MIG

2. คุณภาพของกระจก

  • ควรเลือกกระจกที่มีคุณภาพสูง ทนทานต่อการกระแทกและความร้อน เพื่อให้มั่นใจได้ว่ากระจกจะไม่แตกหรือเสียหายระหว่างการทำงาน นอกจากนี้ ควรเลือกกระจกที่มีการเคลือบป้องกันรอยขีดข่วนเพื่อยืดอายุการใช้งาน

3. มาตรฐานความปลอดภัย

  • กระจกกันแสงเชื่อมควรได้รับการรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน ANSI หรือ CE เพื่อให้มั่นใจว่ากระจกสามารถป้องกันรังสีอันตรายและแสงจ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ความสะดวกสบายในการใช้งาน

  • กระจกกันแสงเชื่อมควรมีน้ำหนักเบา และออกแบบให้พอดีกับหน้ากากหรือแว่นตาที่คุณใช้ เพื่อให้คุณสามารถสวมใส่และใช้งานได้อย่างสะดวกสบายตลอดการทำงาน

5. การเลือกกระจกอัตโนมัติ (Auto-Darkening)

  • ถ้าคุณต้องการความสะดวกสบายในการทำงาน ควรพิจารณากระจกกันแสงเชื่อมแบบอัตโนมัติ (Auto-Darkening) ที่สามารถปรับระดับความเข้มของแสงได้ตามสถานการณ์ ทำให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนกระจกบ่อยๆ เมื่อทำงานเชื่อมหลายประเภท

การเลือกกระจกกันแสงเชื่อมที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับประเภทของงานเชื่อม, คุณภาพของกระจก, มาตรฐานความปลอดภัย, ความสะดวกสบายในการใช้งาน และฟังก์ชันพิเศษเช่นการปรับความเข้มอัตโนมัติ เลือกให้เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานของคุณ

กระจกกันแสงเชื่อม: ป้องกันดวงตาจากอันตรายของรังสีและแสงจ้า

กระจกกันแสงเชื่อม เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับช่างเชื่อมและผู้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้เครื่องเชื่อมโลหะ เนื่องจากการเชื่อมโลหะนั้นสร้างรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และอินฟราเรด (IR) ที่เป็นอันตรายต่อดวงตา รวมถึงแสงจ้าที่สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองและทำลายดวงตาได้

1. ป้องกันรังสีอันตราย

  • กระจกกันแสงเชื่อมได้รับการออกแบบมาเพื่อกรองรังสี UV และ IR ซึ่งเป็นรังสีที่มองไม่เห็นและเป็นอันตรายอย่างมาก การป้องกันนี้ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคตาจากการทำงาน เช่น ต้อกระจกและการไหม้ของกระจกตา

2. ลดแสงจ้าและเพิ่มความชัดเจน

  • นอกจากการกรองรังสีอันตรายแล้ว กระจกกันแสงเชื่อมยังช่วยลดแสงจ้าที่เกิดจากกระบวนการเชื่อม ทำให้ช่างเชื่อมสามารถมองเห็นงานได้อย่างชัดเจน ลดอาการเมื่อยล้าทางสายตา และช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. ความหลากหลายในการเลือกใช้

  • กระจกกันแสงเชื่อมมีหลายระดับความเข้ม (Shade Number) ให้เลือกใช้ตามประเภทของงานเชื่อมและระดับความเข้มของแสงที่ต้องการป้องกัน ซึ่งทำให้สามารถปรับใช้ได้กับงานเชื่อมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมไฟฟ้า, การเชื่อมด้วยแก๊ส, หรือการตัดพลาสมา

กระจกกันแสงเชื่อมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการปกป้องดวงตาจากรังสี UV, IR และแสงจ้าจากการเชื่อม การเลือกใช้กระจกที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำงานเชื่อมเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ พร้อมกับการรักษาสุขภาพดวงตาในระยะยาว

กระจกกันแสงเชื่อมแบบไหนเหมาะกับงานเชื่อมของคุณ?

การเลือกกระจกกันแสงเชื่อมที่เหมาะสมกับงานเชื่อมเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องดวงตาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ต่อไปนี้เป็นแนวทางในการเลือกกระจกกันแสงเชื่อมที่เหมาะสมกับประเภทของงานเชื่อมของคุณ:

1. งานเชื่อมไฟฟ้า (Arc Welding)

  • กระจกที่เหมาะสม: Shade 10-14
  • เหตุผล: การเชื่อมไฟฟ้าเป็นการเชื่อมที่มีการปล่อยแสงจ้าที่สูงมาก การเลือกกระจกที่มีระดับความเข้มสูงจะช่วยป้องกันดวงตาจากแสงจ้าที่รุนแรงและรังสีอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. งานเชื่อม MIG/MAG (Metal Inert Gas/Metal Active Gas Welding)

  • กระจกที่เหมาะสม: Shade 10-13
  • เหตุผล: การเชื่อม MIG/MAG มีความเข้มของแสงใกล้เคียงกับการเชื่อมไฟฟ้า การเลือกกระจกที่มีระดับความเข้มในช่วงนี้จะช่วยให้มองเห็นชิ้นงานได้ชัดเจนโดยไม่เสี่ยงต่อดวงตา

3. งานเชื่อม TIG (Tungsten Inert Gas Welding)

  • กระจกที่เหมาะสม: Shade 8-12
  • เหตุผล: งานเชื่อม TIG มักใช้กระแสไฟฟ้าที่ต่ำกว่าการเชื่อมชนิดอื่นๆ การใช้กระจกที่มีระดับความเข้มต่ำลงช่วยให้มองเห็นงานได้ชัดเจนและสะดวกต่อการควบคุม

4. งานเชื่อมแก๊ส (Gas Welding)

  • กระจกที่เหมาะสม: Shade 4-8
  • เหตุผล: งานเชื่อมด้วยแก๊สมีแสงจ้าที่น้อยกว่าการเชื่อมไฟฟ้า การเลือกกระจกที่มีความเข้มน้อยกว่า ช่วยให้มองเห็นชิ้นงานได้ชัดเจนโดยไม่เสียความปลอดภัย

5. การตัดโลหะด้วยพลาสมา (Plasma Cutting)

  • กระจกที่เหมาะสม: Shade 8-12
  • เหตุผล: การตัดพลาสมาสร้างแสงจ้าที่ค่อนข้างสูง การเลือกกระจกที่มีระดับความเข้มปานกลางถึงสูงจะช่วยปกป้องดวงตาจากแสงจ้าและรังสีได้ดี

6. การใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเชื่อม

  • กระจกที่เหมาะสม: Shade 2-5
  • เหตุผล: เหมาะสำหรับการทำงานที่มีแสงจ้าหรืองานที่ต้องการการป้องกันแสงเบื้องต้น เช่น การดูแลและตรวจสอบชิ้นงานที่มีแสงสะท้อน

การเลือกกระจกกันแสงเชื่อมที่เหมาะสมกับงานของคุณขึ้นอยู่กับประเภทของการเชื่อมที่คุณทำ ระดับความเข้มของแสง และความจำเป็นในการป้องกันรังสี เลือกกระจกที่มีระดับความเข้มที่เหมาะสมเพื่อให้การทำงานปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

สรุป

กระจกกันแสงเชื่อม คือกระจกที่ป้องกันดวงตาจากรังสี UV, IR และแสงจ้าระหว่างการเชื่อมโลหะ มีหลายระดับความเข้ม (Shade Number) ให้เลือกตามประเภทงาน เช่น งานเชื่อมไฟฟ้า, MIG, TIG, และเชื่อมแก๊ส เพื่อความปลอดภัยและการมองเห็นที่ชัดเจน กระจกที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงต่อดวงตาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน