กระจกกันแสงเชื่อม Welding Filter Glass
กระจกกันแสงเชื่อม คือ
กระจกกันแสงเชื่อม คือกระจกที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันดวงตาจากรังสีอันตรายและแสงจ้าจากการเชื่อมโลหะ มักใช้ในหน้ากากหรือแว่นตานิรภัยของช่างเชื่อม กระจกชนิดนี้มีคุณสมบัติกรองรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และอินฟราเรด (IR) ที่สามารถทำอันตรายต่อดวงตา และมีระดับความเข้มของแสงต่างๆ (Shade Number) เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทของการเชื่อมที่ทำงานอยู่
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา
คุณสมบัติหลักของ กระจกกันแสงเชื่อม
คุณสมบัติหลักของกระจกกันแสงเชื่อม ได้แก่:
- การกรองรังสีอันตราย: กระจกสามารถกรองรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และอินฟราเรด (IR) ที่เกิดจากการเชื่อมโลหะ ซึ่งช่วยป้องกันดวงตาจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
- การป้องกันแสงจ้า: กระจกกันแสงเชื่อมถูกออกแบบมาเพื่อกรองแสงจ้าจากการเชื่อม ทำให้ผู้เชื่อมสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยไม่แสบตาหรือเกิดอาการเมื่อยล้าทางสายตา
- ระดับความเข้มของแสง (Shade Number): กระจกชนิดนี้มีระดับความเข้มของแสงหลากหลายระดับ (เช่น Shade 5, Shade 10) ซึ่งแต่ละระดับจะเหมาะสมกับการเชื่อมประเภทต่างๆ เพื่อให้ได้ความปลอดภัยและความชัดเจนสูงสุด
- ความทนทาน: กระจกกันแสงเชื่อมถูกผลิตให้ทนต่อความร้อนและการกระแทกที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและปลอดภัย
- ความคมชัดในการมองเห็น: แม้จะกรองแสงและรังสี แต่กระจกยังคงให้ความคมชัดในการมองเห็นที่ดี เพื่อให้ผู้เชื่อมสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ
เลือกกระจกกันแสงเชื่อมอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน
การเลือกกระจกกันแสงเชื่อมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การป้องกันดวงตาจากรังสีอันตรายและแสงจ้าที่เกิดขึ้นระหว่างการเชื่อมมีประสิทธิภาพสูงสุด ต่อไปนี้เป็นปัจจัยที่ควรพิจารณา:
1. ระดับความเข้มของแสง (Shade Number)
- ระดับความเข้มของแสง หรือ Shade Number เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกกระจกกันแสงเชื่อม ต้องพิจารณาตามประเภทของการเชื่อมที่คุณทำ เช่น งานเชื่อม MIG, TIG, หรือเชื่อมไฟฟ้าแต่ละประเภทมีระดับความเข้มที่เหมาะสมแตกต่างกัน เช่น:
- Shade 5-9: เหมาะสำหรับงานเชื่อมที่ใช้กระแสต่ำ เช่น การเชื่อมด้วยแก๊ส
- Shade 10-14: เหมาะสำหรับงานเชื่อมที่ใช้กระแสสูง เช่น การเชื่อมไฟฟ้าหรือเชื่อม MIG
2. คุณภาพของกระจก
- ควรเลือกกระจกที่มีคุณภาพสูง ทนทานต่อการกระแทกและความร้อน เพื่อให้มั่นใจได้ว่ากระจกจะไม่แตกหรือเสียหายระหว่างการทำงาน นอกจากนี้ ควรเลือกกระจกที่มีการเคลือบป้องกันรอยขีดข่วนเพื่อยืดอายุการใช้งาน
3. มาตรฐานความปลอดภัย
- กระจกกันแสงเชื่อมควรได้รับการรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน ANSI หรือ CE เพื่อให้มั่นใจว่ากระจกสามารถป้องกันรังสีอันตรายและแสงจ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ความสะดวกสบายในการใช้งาน
- กระจกกันแสงเชื่อมควรมีน้ำหนักเบา และออกแบบให้พอดีกับหน้ากากหรือแว่นตาที่คุณใช้ เพื่อให้คุณสามารถสวมใส่และใช้งานได้อย่างสะดวกสบายตลอดการทำงาน
5. การเลือกกระจกอัตโนมัติ (Auto-Darkening)
- ถ้าคุณต้องการความสะดวกสบายในการทำงาน ควรพิจารณากระจกกันแสงเชื่อมแบบอัตโนมัติ (Auto-Darkening) ที่สามารถปรับระดับความเข้มของแสงได้ตามสถานการณ์ ทำให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนกระจกบ่อยๆ เมื่อทำงานเชื่อมหลายประเภท
การเลือกกระจกกันแสงเชื่อมที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับประเภทของงานเชื่อม, คุณภาพของกระจก, มาตรฐานความปลอดภัย, ความสะดวกสบายในการใช้งาน และฟังก์ชันพิเศษเช่นการปรับความเข้มอัตโนมัติ เลือกให้เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานของคุณ
กระจกกันแสงเชื่อม: ป้องกันดวงตาจากอันตรายของรังสีและแสงจ้า
กระจกกันแสงเชื่อม เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับช่างเชื่อมและผู้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้เครื่องเชื่อมโลหะ เนื่องจากการเชื่อมโลหะนั้นสร้างรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และอินฟราเรด (IR) ที่เป็นอันตรายต่อดวงตา รวมถึงแสงจ้าที่สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองและทำลายดวงตาได้
1. ป้องกันรังสีอันตราย
- กระจกกันแสงเชื่อมได้รับการออกแบบมาเพื่อกรองรังสี UV และ IR ซึ่งเป็นรังสีที่มองไม่เห็นและเป็นอันตรายอย่างมาก การป้องกันนี้ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคตาจากการทำงาน เช่น ต้อกระจกและการไหม้ของกระจกตา
2. ลดแสงจ้าและเพิ่มความชัดเจน
- นอกจากการกรองรังสีอันตรายแล้ว กระจกกันแสงเชื่อมยังช่วยลดแสงจ้าที่เกิดจากกระบวนการเชื่อม ทำให้ช่างเชื่อมสามารถมองเห็นงานได้อย่างชัดเจน ลดอาการเมื่อยล้าทางสายตา และช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ความหลากหลายในการเลือกใช้
- กระจกกันแสงเชื่อมมีหลายระดับความเข้ม (Shade Number) ให้เลือกใช้ตามประเภทของงานเชื่อมและระดับความเข้มของแสงที่ต้องการป้องกัน ซึ่งทำให้สามารถปรับใช้ได้กับงานเชื่อมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมไฟฟ้า, การเชื่อมด้วยแก๊ส, หรือการตัดพลาสมา
กระจกกันแสงเชื่อมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการปกป้องดวงตาจากรังสี UV, IR และแสงจ้าจากการเชื่อม การเลือกใช้กระจกที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำงานเชื่อมเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ พร้อมกับการรักษาสุขภาพดวงตาในระยะยาว
กระจกกันแสงเชื่อมแบบไหนเหมาะกับงานเชื่อมของคุณ?
การเลือกกระจกกันแสงเชื่อมที่เหมาะสมกับงานเชื่อมเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องดวงตาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ต่อไปนี้เป็นแนวทางในการเลือกกระจกกันแสงเชื่อมที่เหมาะสมกับประเภทของงานเชื่อมของคุณ:
1. งานเชื่อมไฟฟ้า (Arc Welding)
- กระจกที่เหมาะสม: Shade 10-14
- เหตุผล: การเชื่อมไฟฟ้าเป็นการเชื่อมที่มีการปล่อยแสงจ้าที่สูงมาก การเลือกกระจกที่มีระดับความเข้มสูงจะช่วยป้องกันดวงตาจากแสงจ้าที่รุนแรงและรังสีอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. งานเชื่อม MIG/MAG (Metal Inert Gas/Metal Active Gas Welding)
- กระจกที่เหมาะสม: Shade 10-13
- เหตุผล: การเชื่อม MIG/MAG มีความเข้มของแสงใกล้เคียงกับการเชื่อมไฟฟ้า การเลือกกระจกที่มีระดับความเข้มในช่วงนี้จะช่วยให้มองเห็นชิ้นงานได้ชัดเจนโดยไม่เสี่ยงต่อดวงตา
3. งานเชื่อม TIG (Tungsten Inert Gas Welding)
- กระจกที่เหมาะสม: Shade 8-12
- เหตุผล: งานเชื่อม TIG มักใช้กระแสไฟฟ้าที่ต่ำกว่าการเชื่อมชนิดอื่นๆ การใช้กระจกที่มีระดับความเข้มต่ำลงช่วยให้มองเห็นงานได้ชัดเจนและสะดวกต่อการควบคุม
4. งานเชื่อมแก๊ส (Gas Welding)
- กระจกที่เหมาะสม: Shade 4-8
- เหตุผล: งานเชื่อมด้วยแก๊สมีแสงจ้าที่น้อยกว่าการเชื่อมไฟฟ้า การเลือกกระจกที่มีความเข้มน้อยกว่า ช่วยให้มองเห็นชิ้นงานได้ชัดเจนโดยไม่เสียความปลอดภัย
5. การตัดโลหะด้วยพลาสมา (Plasma Cutting)
- กระจกที่เหมาะสม: Shade 8-12
- เหตุผล: การตัดพลาสมาสร้างแสงจ้าที่ค่อนข้างสูง การเลือกกระจกที่มีระดับความเข้มปานกลางถึงสูงจะช่วยปกป้องดวงตาจากแสงจ้าและรังสีได้ดี
6. การใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเชื่อม
- กระจกที่เหมาะสม: Shade 2-5
- เหตุผล: เหมาะสำหรับการทำงานที่มีแสงจ้าหรืองานที่ต้องการการป้องกันแสงเบื้องต้น เช่น การดูแลและตรวจสอบชิ้นงานที่มีแสงสะท้อน
การเลือกกระจกกันแสงเชื่อมที่เหมาะสมกับงานของคุณขึ้นอยู่กับประเภทของการเชื่อมที่คุณทำ ระดับความเข้มของแสง และความจำเป็นในการป้องกันรังสี เลือกกระจกที่มีระดับความเข้มที่เหมาะสมเพื่อให้การทำงานปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
สรุป
กระจกกันแสงเชื่อม คือกระจกที่ป้องกันดวงตาจากรังสี UV, IR และแสงจ้าระหว่างการเชื่อมโลหะ มีหลายระดับความเข้ม (Shade Number) ให้เลือกตามประเภทงาน เช่น งานเชื่อมไฟฟ้า, MIG, TIG, และเชื่อมแก๊ส เพื่อความปลอดภัยและการมองเห็นที่ชัดเจน กระจกที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงต่อดวงตาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน