RFL-40C Reflex Level Gauges

RFL-40C Reflex Level Gauges คือ

RFL-40C Reflex Level Gauges คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับตรวจสอบระดับของของเหลวภายในหม้อหรือถัง โดยใช้หลักการของการสะท้อนแสงเพื่อวัดระดับของของเหลวในหม้อหรือถัง ซึ่งมีลักษณะเด่นคือการใช้กระจกหรือแก้วที่มีความสะท้อนสูงเพื่อสะท้อนแสงในรูปแบบที่สามารถแสดงระดับของของเหลวในถังได้อย่างชัดเจน และสามารถมองเห็นระดับของของเหลวได้โดยไม่ต้องเปิดฝาหรือเปิดทำการรักษา เป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมสำหรับการควบคุมระดับของของเหลว

RFL-40C Reflex Level Gauges
RFL-40C
RFL-40C Reflex Level Gauges

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา

  • LINE ID: @PST4545
  • Facebook : Zigma Flow
  • Email : zigmaflow.info@gmail.com
  • Tel : 089-128-7330 , 096-020-2922
  • บริษัท ซิกม่าโฟลว์ เซ็นเตอร์ จำกัด
    24 ซอยประชาชื่นนนทบุรี 6 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 11000
หมวดหมู่สินค้าเพิ่มเติม
ZigmaServices

คุณสมบัติของ RFL-40C Reflex Level Gauges

  • การทำงานตามหลักการสะท้อนแสง: หลอดวัดระดับน้ำมัน RFL-40C ใช้กระจกหรือแก้วที่มีความสะท้อนสูงเป็นส่วนหนึ่งของระบบ ซึ่งจะสะท้อนแสงออกมาในรูปแบบที่แสดงระดับของของเหลวภายในถัง จะมีการเปลี่ยนแปลงในระดับของแสงที่สะท้อนกลับมาเมื่อระดับของของเหลวเปลี่ยนแปลง
  • ความคงทนและทนทาน: อุปกรณ์ RFL-40C มีโครงสร้างที่ทนทานต่อสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ และสามารถทนทานต่อการใช้งานในสถานการณ์ที่มีความดันสูง อุณหภูมิสูง หรือสารเคมีที่เป็นกรดหรือด่างได้
  • ความสะดวกในการใช้งาน: สามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่าย มีความสะดวกในการดูระดับของของเหลวโดยไม่ต้องเปิดฝาหรือทำการรักษา ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความสะดวกและประสิทธิภาพสูง
  • ความเป็นมาตรฐาน: RFL-40C Reflex Level Gauges มักจะเป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรม มักมีการออกแบบและผลิตตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น ISO 9001 เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์

วัสดุและการทำงาน RFL-40C Reflex Level Gauges : สิ่งที่คุณควรรู้

RFL-40C Reflex Level Gauges มักถูกผลิตด้วยวัสดุที่มีความทนทานและความคงทนสูง เช่น กระจกหรือแก้วที่มีคุณสมบัติในการสะท้อนแสงอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบเสริมอื่น ๆ เช่น โครงสร้างของห่วงสแตนเลสหรือโลหะที่ทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันได้ด้วย การทำงานของ RFL-40C Reflex Level Gauges มีดังนี้:

  1. การสะท้อนแสง: เมื่อระดับของของเหลวในถังเปลี่ยนแปลง แสงที่ส่องผ่านหรือตกและสะท้อนกลับจากพื้นผิวของหลอดแก้วระดับน้ำมัน โดยที่ระดับของแสงที่สะท้อนกลับมาจะแสดงระดับของของเหลวที่อยู่ภายในถัง
  2. การทำงานแบบคงที่: ระดับของของเหลวในถังจะสะท้อนให้เห็นในรูปแบบของแถบสีที่แตกต่างกัน เช่น สีเขียวหมายถึงระดับที่ปลอดภัย สีแดงหมายถึงระดับที่ต้องการเติมน้ำมัน
  3. ความถูกต้อง: RFL-40C Reflex Level Gauges มักมีความถูกต้องในการวัดระดับของของเหลวในถังอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสะท้อนแสงสามารถให้ข้อมูลที่เป็นไปได้อย่างแม่นยำ
  4. การทนทานต่อสภาพแวดล้อม: วัสดุที่ใช้ในการผลิต RFL-40C Reflex Level Gauges มักมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น การทนทานต่ออุณหภูมิสูง ความดันสูง สารเคมี และความเป็นกรดหรือด่างได้
วัสดุและการทำงาน RFL-40C Reflex Level Gauges

การทำงานของ RFL-40C Reflex Level Gauges มักจะเป็นไปอย่างเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบระดับของของเหลวในถังในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ต้องการความแม่นยำและความเชื่อถือในการวัดและควบคุมระดับของของเหลว

ตัวอย่างการใช้งาน RFL-40C Reflex Level Gauges

การผลิตน้ำยาอาหารและเครื่องดื่ม: ในโรงงานที่ผลิตน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ RFL-40C Reflex Level Gauges สามารถใช้ในการตรวจสอบระดับของน้ำตาลหรือน้ำหนักที่ใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อควบคุมการเติมสารอาหารหรือส่วนผสมอื่น ๆ ให้คงที่และสม่ำเสมอ

การผลิตเคมี: ในโรงงานที่ผลิตสารเคมี RFL-40C Reflex Level Gauges สามารถใช้ในการตรวจสอบระดับของสารเคมีในถังเก็บสารเคมี เพื่อควบคุมการเติมสารเคมีหรือการนำส่งสารไปยังขบวนการถัดไป

การผลิตเซรามิก: ในโรงงานที่ผลิตเซรามิก RFL-40C Reflex Level Gauges สามารถใช้ในการตรวจสอบระดับของเครื่องเจียรอย่างกำเนิดหรือสารที่ใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อให้การผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

การใช้งาน ในอุตสาหกรรมช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการผลิตและรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ

ติดตั้งและบำรุงรักษา RFL-40C Reflex Level Gauges

การติดตั้งและบำรุงรักษา RFL-40C Reflex Level Gauges มักจะปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้:

การติดตั้ง:

  1. เลือกตำแหน่งที่เหมาะสม: เลือกตำแหน่งที่ติดตั้งที่เหมาะสมบนถังหรือหม้อที่ต้องการวัดระดับของของเหลว โดยควรพิจารณาให้แน่ใจว่ามีการเข้าถึงได้สะดวกและสามารถมองเห็นแถบสีสะท้อนได้
  2. การติดตั้งที่มั่นคง: ใช้วัสดุที่แข็งแรงและมั่นคงเพื่อติดตั้ง RFL-40C ให้ปลอดภัยและมั่นคงบนถังหรือหม้อ เช่น ใช้งานยึดสลักหรือหน้าสกรูที่แข็งแรงและทนทานต่อสภาพแวดล้อม
  3. การเชื่อมต่อท่อ: ตรวจสอบและเชื่อมต่อท่อที่จะใช้วัดระดับของของเหลวให้แน่ใจว่ามีการเชื่อมต่ออย่างแน่นหนาและป้องกันการรั่วไหล

การบำรุงรักษา:

  1. การทำความสะอาด: ตรวจสอบหลอดแก้วและแถบสีสะท้อนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งสกปรกหรือสารสกัดที่มีอาจทำให้เสียหายหรือลดประสิทธิภาพของการวัดระดับ
  2. การตรวจสอบระดับน้ำมัน: ตรวจสอบและทดสอบระดับของของเหลวในถังอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าการวัดยังคงถูกต้องและปลอดภัย
  3. การบำรุงรักษาประจำเดือนหรือปี: แต่ละปีหรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต ควรตรวจสอบการทำงานและประสิทธิภาพของ RFL-40C Reflex Level Gauges อย่างสม่ำเสมอ และดำเนินการบำรุงรักษาเพื่อรักษาประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
  4. การเปลี่ยนส่วนอะไหล่: หากพบความเสียหายหรือส่วนอะไหล่ที่มีปัญหา ควรทำการเปลี่ยนส่วนอะไหล่ที่เสียหายใหม่เพื่อรักษาประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ดีที่สุด

การบำรุงรักษาและการดูแลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้รักษาประสิทธิภาพและความทนทานของอุปกรณ์ได้อย่างยาวนานและมั่นคง

สรุป

RFL-40C Reflex Level Gauges อุปกรณ์ตรวจสอบวัดระดับของเหลวในภาชนะต่างๆ มีความแม่นยำสูง โดยใช้กระจกหรือแก้วสะท้องแสงในการตรวจสอบระดับ

ตัวอย่างโครงการและอุตสาหกรรม

ตัวอย่างอุตสาหกรรมและโครงการ ที่เลือกRFL-40C Reflex Level Gauges ด้วยมาตรฐานที่แข็งแรงทนทาน เพิ่มความสะดวกให้กับอุตสาหกรรม

  • โรงงานผลิตเคมี
  • โรงงานผลิตเซรามิก
  • อุตสาหอาหาร
  • โรงงานผลิตยาและเครื่องดื่ม

ข้อเสีย RFL-40C Reflex Level Gauges

  1. ความเสี่ยงต่อการแตกหัก: กระจกหรือแก้วที่ใช้ใน Reflex Level Gauges อาจแตกหักได้ง่ายหากถูกกระแทกหรือได้รับแรงกดดันมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยและต้องการการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่
  2. การสะสมของคราบสกปรก: การสะสมของคราบสกปรกหรือสารตกค้างบนพื้นผิวของกระจกหรือแก้วอาจทำให้การมองเห็นระดับของของเหลวเป็นไปได้ยาก และอาจลดความแม่นยำในการวัดระดับของเหลว
  3. ข้อจำกัดในการวัดของเหลวที่มีความขุ่น: อาจไม่เหมาะสมสำหรับการวัดระดับของเหลวที่มีความขุ่นหรือมีอนุภาคแขวนลอยมาก เนื่องจากการสะท้อนแสงอาจไม่ชัดเจนและทำให้การวัดมีความคลาดเคลื่อนได้
  4. ความซับซ้อนในการติดตั้ง: การติดตั้งอาจต้องการความชำนาญและความระมัดระวังในการติดตั้งเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทำงานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
  5. การบำรุงรักษา: การบำรุงรักษาอาจต้องใช้เวลาและความพยายามในการทำความสะอาดและตรวจสอบสภาพการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ