ปะเก็นเชือกกราไฟท์ Pure Graphite Packing
ปะเก็นเชือกกราไฟท์ คือ
ปะเก็นเชือกกราไฟท์ (Pure Graphite Packing) คือ วัสดุปิดรอยรั่วที่ทำจากเส้นใยกราไฟท์บริสุทธิ์ถักเป็นเชือก มีคุณสมบัติทนทานต่ออุณหภูมิสูง (มากกว่า 600 องศาเซลเซียส) ความดันสูง และสารเคมีหลากหลายชนิด รวมถึงกรดและด่าง มีความยืดหยุ่นสูง ไม่เกิดสนิมหรือการสึกกร่อน ใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการการซีลที่มีประสิทธิภาพและความทนทาน เพื่อป้องกันการรั่วซึมของของเหลวหรือก๊าซในระบบต่างๆ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อสินค้า ขอใบเสนอราคา
หมวดหมู่สินค้าเพิ่มเติม
คุณสมบัติของ ปะเก็นเชือกกราไฟท์
- ทนความร้อนสูง: สามารถทนทานต่ออุณหภูมิสูงได้ถึงประมาณ 450-600 องศาเซลเซียส และทนอุณหภูมิได้ถึงประมาณ 3000 องศาเซลเซียส ในสภาวะที่ไม่มีออกซิเจน
- ทนต่อสารเคมี: ทนทานต่อสารเคมีต่าง ๆ ได้ดี เช่น กรด, ด่าง, สารละลายอินทรีย์ และน้ำมัน
- ไม่มีสารอันตราย: ปลอดภัยต่อการใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยไม่มีสารพิษหรือสารอันตรายปล่อยออกมา
- ความต้านทานการเสียดสี: มีความแข็งแรงและทนทานต่อการเสียดสีได้ดี ทำให้ใช้งานได้นาน
วิธีใช้งาน ปะเก็นเชือกกราไฟท์
ปะเก็นเชือกกราไฟท์บริสุทธิ์ใช้งานโดยการพันรอบแกนหมุนหรือส่วนที่ต้องการปิดผนึก เช่น ปั๊ม, วาล์ว, หรือเครื่องปฏิกรณ์ โดยทั่วไปจะตัดเชือกเป็นส่วน ๆ ให้ได้ความยาวที่เหมาะสมแล้วนำมาพันรอบส่วนที่ต้องการปิดผนึกในรูปแบบเกลียวหรือวงแหวนเรียงชั้น โดยควรให้แต่ละชั้นของเชือกทับซ้อนกันเล็กน้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดผนึก หลังจากนั้นควรทำการขันแน่นให้เชือกเข้าที่และปรับให้แน่นเพื่อให้สามารถป้องกันการรั่วไหลได้ดี ทั้งนี้การใช้งานควรปฏิบัติตามคู่มือหรือคำแนะนำจากผู้ผลิตเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยืดอายุการใช้งานของปะเก็นเชือกกราไฟท์บริสุทธิ์
ตัวอย่างการใช้งาน ปะเก็นเชือกกราไฟท์
ปะเก็นเชือกกราไฟท์มีการใช้งานอย่างกว้างขวางในหลายอุตสาหกรรมเนื่องจากคุณสมบัติทนความร้อนและสารเคมีได้ดี ตัวอย่างการใช้งาน ได้แก่:
- อุตสาหกรรมอาหารและยา: ใช้ในการปิดผนึกปั๊มและวาล์วที่ต้องรักษาความสะอาดและความปลอดภัยในการผลิตอาหารและยา โดยเฉพาะในกระบวนการที่มีอุณหภูมิและความดันสูง
- อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ: ใช้ในการปิดผนึกปั๊มและวาล์วที่ต้องเผชิญกับสภาวะความดันสูงและอุณหภูมิสูง รวมถึงสารเคมีที่มีความรุนแรง เช่น การปิดผนึกในปั๊มน้ำมัน, ปั๊มแก๊ส และท่อส่งก๊าซธรรมชาติ
- อุตสาหกรรมพลังงาน: ใช้ในการปิดผนึกอุปกรณ์ในโรงไฟฟ้า เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้า, กังหันไอน้ำ และหม้อไอน้ำ ที่ต้องทนทานต่ออุณหภูมิและความดันสูง
- อุตสาหกรรมเคมี: ใช้ในการปิดผนึกวาล์วและปั๊มที่ต้องเผชิญกับสารเคมีเข้มข้น เช่น กรดและด่าง รวมถึงสารละลายอินทรีย์ ที่อาจทำให้วัสดุปิดผนึกอื่น ๆ เสื่อมสภาพได้ง่าย
ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในการใช้งาน ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความทนทานและเชื่อถือได้ในสภาวะการทำงานที่ท้าทาย
กราไฟท์ คืออะไร ทำไมถึงเป็น ปะเก็นกราไฟท์
กราไฟท์ (Graphite) คือรูปแบบหนึ่งของคาร์บอนที่มีโครงสร้างผลึกเป็นชั้นๆ โดยอะตอมของคาร์บอนเรียงตัวกันเป็นหกเหลี่ยมในแต่ละชั้น และแต่ละชั้นสามารถเลื่อนผ่านกันได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างชั้นที่อ่อนแอ กราไฟท์มีคุณสมบัติที่เด่นหลายประการเช่น:
- การหล่อลื่น: เนื่องจากชั้นของอะตอมคาร์บอนสามารถเลื่อนได้ง่าย กราไฟท์จึงมีคุณสมบัติเป็นสารหล่อลื่นที่ดี
- ทนความร้อน: กราไฟท์สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้โดยไม่เสื่อมสภาพ
- นำไฟฟ้า: โครงสร้างที่เป็นชั้นของกราไฟท์ทำให้มันสามารถนำไฟฟ้าได้ดี
ปะเก็นเชือกกราไฟท์ Pure Graphite Packing คือปะเก็นที่ทำจากกราไฟท์ในรูปแบบของเชือก โดยมีคุณสมบัติที่สำคัญดังนี้:
- ทนต่ออุณหภูมิสูง: เนื่องจากกราไฟท์มีความทนทานต่ออุณหภูมิสูง ปะเก็นเชือกกราไฟท์จึงสามารถใช้ในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูงได้ดี เช่นในเตาเผา หม้อไอน้ำ หรือระบบท่อที่มีความร้อนสูง
- ความยืดหยุ่นและการปิดผนึกที่ดี: ปะเก็นเชือกกราไฟท์มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับตัวให้เข้ากับพื้นผิวที่ไม่เรียบได้ดี ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการปิดผนึกสูง
- ความต้านทานต่อสารเคมี: กราไฟท์มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีหลายชนิด ทำให้ปะเก็นเชือกกราไฟท์เหมาะสำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีอยู่
เนื่องจากคุณสมบัติเหล่านี้ ปะเก็นเชือกกราไฟท์จึงเป็นที่นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานต่อความร้อนสูงและการกัดกร่อนจากสารเคมี อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการปิดผนึกที่ดีอีกด้วย
สรุป
ปะเก็นเชือกกราไฟท์ เป็นวัสดุที่ช่วยในงานอุตสาหกรรมได้อย่างดีเยี่ยม เพราะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่เหมาะแก่การใช้งานในอุตสาหกรรม ด้วยการที่สามารถทนความร้อนและสารเคมีได้สูง ไม่เกิดสนิม จึงเหมาะแก่การใช้งานในงานที่ต้องใช้ความสูง
ตัวอย่างโครงการและอุตสาหกรรม
ตัวอย่างอุตสาหกรรมและโครงการ ที่เลือกใช้ปะเก็นเชือกกราไฟท์ ด้วยมาตรฐานที่แข็งแรงทนทาน เพิ่มความสะดวกให้กับอุตสาหกรรม
- อุตสาหกรรมพลังงาน
- อุตสาหกรรมผลิตเหล็กไฟฟ้า
- อุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ
- อุตสาหกรรมเคมี